วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554


ทฤษฎีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ตามแนวทางการบริหารจัดการด้านน้ำท่วมล้น (Flood Management)




           พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานแนวพระราชดำริแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ไว้ 5 แนวทาง คือ ประการแรก สร้างคันกั้นน้ำ  โดยปรับปรุงแนวถนนเดิมประการที่สอง จัดให้มีพื้นที่สีเขียว (Green Belt)   ตามพระราชดำริ เพื่อกันการขยายตัวของเมือง และเพื่อแปรสภาพให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อมีน้ำหลาก ประการที่สาม ดำเนินการขุดลอกคลอง ขยายคลองที่มีอยู่เดิมและขุดใหม่นอกแนวคันกั้นน้ำ ประการที่สี่ สร้างสถานที่เก็บน้ำตามจุดต่าง ๆ ประการที่ห้า ขยายช่องทางรับน้ำที่ผ่านทางรถไฟและทางหลวง



วิธีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในภูมิภาคต่าง ๆ คือ
1. การก่อสร้างคันกันน้ำ โดยการก่อสร้างคันดินกั้นน้ำขนานไปตามลำน้ำเพื่อป้องกันมิให้น้ำล้นตลิ่งไปท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ ด้านใน
2. การก่อสร้างทางผันน้ำ เพื่อผันน้ำทั้งหมดหรือบางส่วนที่ล้นตลิ่งท่วมล้นเข้ามาให้ออกไป
3. การปรับปรุงและตกแต่งสภาพลำน้ำ เพื่อให้น้ำที่ท่วมทะลักสามารถไหลไปตามลำน้ำได้สะดวก หรือช่วยให้กระแสน้ำไหลเร็วยิ่งขึ้น
                                                                                 
                                                                                                                                                                   ที่มา wachiiteasy  igetweb.com

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ประเพณีกินเจ 2554 ภูเก็ต

รวมภาพจากประเพณีกินเจ แห่พระศาลเจ้าสามกอง ศาลเจ้าบางเหนียว(ต่อ)...ภาพจากกล้อง iPhone

สีสรรค์งานระเพณีถือศีลกินเจ 2554 ภูเก็ต

ขบวนแห่พระรอบเมือง ศาลเจ้าสามกอง และศาลเจ้าบางเหนียว

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

Tiny Monster

Tiny Monster
Photo and caption by Kendall Ruth

Up-close it looks more like a cast member of Mosters Inc. but he was discovered among the grasses near the BBQ. This Horned Tomato Worm was inching its way toward a lone tomato plant.
Via National Geographic

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ของต้องห้าม ยามท้องว่าง

ก่อนที่จะรับประทาน ควรเลือกชนิดของอาหารเสียก่อนนะคะ เพราะบางทีอาหารที่เราทานลงไปทั้งๆ ที่มีประโยชน์แต่ไม่ถูกเวลา ก็อาจส่งผลเสียบางอย่างที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ค่ะ ไปดูกันว่าอาหารที่ไม่ควรรับประทานขณะท้องว่างมีชนิดใดบ้าง


นมและนมถั่วเหลือง
แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระเพาะอาหารมีสาร
ประเภทแป้งอยู่
เหล้า
หากดื่มเหล้าในขณะท้องว่าง จะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้
น้ำตาลหรืออาหารหวาน
ไม่ควรรับประทานอาหารหวานหรือน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ลูกอม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทานขณะ ท้องว่างจะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิดและลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต
ชาที่แก่เกินไป
ชาทำให้กรดเกลือในน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงานของระบบย่อยอาหารลดลง
และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะมือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ
ลูกพลับ
ไม่ควรรับประทานลูกพลับในขณะที่ท้องว่าง เพราะกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเกลือออกมามาก หากไปรวมตัวกับยาง และสารแขวนลอยในลูกพลับแล้ว จะทำให้เจ็บหน้าอก คลื่นไส้และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร
กล้วย
เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วยขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณธาตุ
แมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไปเป็นการยับยั้งการทำงานของหลอดเลือด หัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
กระเทียม
เพราะจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารได้รับการกระตุ้น เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง
ผัก
การรับประทานผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปกติ
นอกจากนั้นยังไม่ควรอาบน้ำและออกกำลังกายด้วยเช่นกัน เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกายใน
ขณะที่ท้องว่าง จะทำให้เกิดอาการช็อกเนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย อย่าลืมสิ่งใดที่มีคุณอนันต์ก็อาจมีโทษมหันต์เช่นกัน ถ้าคุณปฏิบัติอย่างผิดวิธี
โดย : ladytip.com

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

โยคะบนเตียง

โยคะบนเตียง



ยืดเส้นยืดสาย สัปดาห์นี้ชวนผู้อ่านใช้เวลาสัดนิดก่อนล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ ของท่าน มาทำท่าโยคะที่ช่วยคลายปวดเมื่อยช่วงขา และถือเป็นการจัดระเบียบกระดูกสันหลัง

ตามคำแนะนำของครูเจี๊ยบ-ภัชภิชา แก้วสุวรรณสุข จากโยคะสุตรา สตูดิโอ ที่สาธิตให้ชมระหว่างการเปิดตัวหมอนเพื่อสุขภาพ นิชิกาว่า ลิฟวิ่ง โดยซีเอ็มจี


โดยก่อนนอนทุกคืน ครูเจี๊ยบแนะนำให้ทำโยคะบนเตียงก่อนนอนซึ่งเป็นท่าง่ายๆ ไม่ซับซ้อน จะช่วยให้หัวเข่าแข็งแรง เพิ่มกำลังต้นขา และหลับได้สบายยิ่งขึ้น

เริ่มจากนั่งลงบนเตียงในท่าทับขา หรือในท่าเตรียมไหว้พระที่เรียกว่าท่าเทพธิดา จากนั้นค่อยๆ เอนหลังนอนลงไป แต่ช่วงขายังคงเป็นท่านั่งเช่นเดิมอยู่

เมื่อลำตัวส่วนบนนอนราบลงไปแล้ว ให้ประสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน ยืดเหยียดแขนขึ้นไปเหนือศีรษะ ค้างไว้สักครู่แล้วคลายมือออกจากกัน ใช้มือข้างหนึ่งจับข้อศอกของแขนอีกข้าง ค้างไว้จนความตึงช่วงหลังและขาคลายลง สุดท้ายค่อยๆ คลายท่าอย่างช้าๆ จนอยู่ในท่านอนหงายเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำโยคะบนเตียง และหลับตานอนได้ด้วยความสบาย

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

10 อันดับของสังฆทาน ที่พระจะได้ประโยชน์มากที่สุด

สกู๊ปรายการจุดเปลี่ยน...จากหนังสือ ข่าวสารกัลยาณธรรม ประจำเดือนมกราคม 2554
รายการจุดเปลี่ยน เมื่อวันเสาร์ที่ 10 และ 21 มิถุนายน 2553 ทางช่อง 9 เวลา 13.00 น. ออกอากาศเรื่อง 10 อันดับของสังฆทาน ที่ทำแล้วพระท่านจะได้ประโยชน์มากที่สุด  อันเนื่องมาจากมีการสำรวจของในถังสังฆทานสำเร็จรูป (ถังเหลือง) ที่เห็นวางขายกันอยู่ทั่วไป พบว่า กว่า 50 % เป็นของที่ไม่มีคุณภาพ ใช้งานจริงไม่ได้ เช่น ผ้าจีวรสั้นและบางจนแทบจะเป็นผ้าซีทรู ใบชาเหม็นผงซักฟอกที่วางมาข้างๆ (กลายเป็นใบชารสโอโม่) กระดาษชำระหยาบและมีกลิ่นเหม็น แปรงสีฟันแข็งจนพระค่อนประเทศเป็นโรคเหงือกอักเสบ, สบู่ แชมพู ที่ถวายมีกลิ่นหอมแรง และผสมมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ทำให้พระผิดศีลต้องปลงอาบัติกันทุกวัน (มีศีลข้อหนึ่งห้ามการประทินผิวและใช้เครื่องหอม ไม่แน่ใจว่าศีลข้อที่ 6,7 หรือ 8 นี่แหละค่ะ) เครื่องชงดื่มมักหมดอายุ ถ่านไฟฉายหมดอายุ แบตเยิ้ม ฯลฯ หรือแม้แต่ตัวภาชนะที่ใส่ คือถัง ก็ยังทำจากพลาสติกคุณภาพต่ำ ใส่อะไรได้แป๊บเดียวก็ฉีก แตก พัง เป็นต้นค่ะ

รายการจุดเปลี่ยน จึงได้ไปสอบถามพระสงฆ์จำนวนหนึ่ง แล้วจัดอันดับสิ่งของสังฆทาน ตามความจำเป็นในการใช้งาน รวม 10 อันดับ ซึ่งเรียงจากจำเป็นมากสุดไปน้อยที่สุดได้ ดังนี้

1. เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ
เนื่องจากพระสมัยนี้ต้องเรียนพระปริยัติธรรม และจดกำหนดนัดหมายต่างๆ ช่วยจำ บางรูปท่านเป็นเหรัญญิกดูแลค่าใช้จ่าย ยิ่งต้องใช้มาก แต่ไม่ค่อยมีใครถวายเครื่องเขียนเหล่านี้ พระท่านจึงต้องไปเดินหาซื้อเองเสมอ หากเราถวายไป พระท่านจะได้ใช้อย่างแน่นอนค่ะ อันดับ 1 จึงตกเป็นของ 'เครื่องเขียน' ไปอย่างพลิกความคาดหมาย (หรือว่าคุณทายถูก)

2. ใบมีดโกนตราขนนก (Feather) หรือยี่ห้อยินเลส (Gillette)
 เนื่องจากพระต้องโกนผมทุกวันโกน แต่ใบมีดยี่ห้ออื่น พระใช้โกนผมแล้วเลือดสาด !!! (>_<) ท่านจึงใช้ได้แค่ 2 ยี่ห้อนี้เท่านั้น อนึ่ง ใบมีดตราขนนกจะคมกว่ายินเลส ใช้ในการโกนครั้งแรก ส่วนยินเลสจะใช้เก็บความเรียบร้อยอีกครั้ง หากท่านใดถวายใบมีด ก็ได้ชื่อว่า ช่วยไม่ให้พระต้องเสียเลือดเนื้อทุกวันโกน ข้าพเจ้าเห็นว่าได้บุญดีกว่าให้ยาอีกนะท่าน

3. ผ้าไตรจีวร ที่มีความยาวพอที่จะนุ่งห่มได้ มีความหนาพอเหมาะสม
เพราะผ้าที่ติดมากับถังเหลือง มันทั้งสั้น ทั้งเต่อ ทั้งบาง ทำให้พระท่านลำบากใจเวลาสวมใส่ ขาดความมั่นใจ และเสียภาพลักษณ์ที่ดีของสงฆ์ ผู้ใดถวายผ้าไตรจีวร จึงได้อานิสงส์มากนัก

4. หนังสือธรรมะ สารคดี นิตยสาร หรือที่ให้ความรู้ด้านอื่นๆ
เนื่องจากพระสงฆ์ มีหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ที่แตกฉาน ทั้งทางธรรม และรู้ทันข่าวสารบ้านเมือง เพื่อจะได้สาธก ยกตัวอย่างให้ชาวบ้านเข้าใจได้แจ่มแจ้ง การถวายหนังสือเหล่านี้ จึงถือเป็นต้นทุนแห่งธรรมทาน ให้พระท่านได้นำไปต่อยอด กระจายสู่ผู้คนได้อีกมาก ทั้งยังถือเป็นการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยง แถมได้ผลตอบแทนสูง น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง (ใครติดหุ้นอยู่น่าจะลองไปถวายหนังสือธรรมะแก้เคล็ดนะ ก๊ากกกก)

5. รองเท้า
พระท่านต้องเดินบิณฑบาตร, ธุดงค์, ไปเรียนหนังสือ, ไปกิจนิมนต์ตามที่ต่างๆ, บางรูปต้องทำงานที่ใช้แรงงานในวัด เช่น ก่อสร้าง ทำสวน สิ่งที่ต้องรับภาระหนักก็คือ 'รองเท้า' ที่มักจะขาด เสียหาย อยู่บ่อยๆ นั่นเอง รองเท้าจึงถือเป็นอีก item หนึ่งที่มีความสำคัญอย่างสูง

6. ยาหลักๆ ที่จำเป็น
ยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้ปวดหัว ปวดท้อง ยาแก้ไอ แก้ไข้ ลดกรดในกระเพาะอาหาร ยาใส่แผลสด แผลเปื่อย แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลพุพอง เป็นหนอง ผิวหนังอักเสบ เป็นหนอง 
7. ผ้าขนหนูสีสุภาพ ไม่ต้องสีเหลืองก็ได้
เพราะผ้าขนหนูที่ติดมากับถังเหลืองมักหยาบ เล็ก และคุณภาพต่ำ จนเอามาใช้ไม่ได้ในชีวิตจริง

8. ชุดคอมพิวเตอร์
อู้วววว ไฮโซไปนิดนึง แต่ถ้าใครรวบรวมเงินได้เป็นกอบเป็นกำอย่างกฐิน ผ้าป่า ก็น่าพิจารณาถวายคอมพิวเตอร์แด่วัดที่ขาดแคลน

9. น้ำยาเช็ดพื้น
เหอ... งงไปเลย พระท่านจะเอาน้ำยาเช็ดพื้นไปทำอะไร ?? เฉลย ก็เอาไปผสมน้ำ ถูกุฏิ ศาลา อุโบสถ ไงจ๊ะ เพราะนอกจากจะช่วยผ่อนแรงในการทำความสะอาด สลายคราบแล้ว บางยี่ห้อยังช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในมูลนกพิราบ ฉี่หมา ฉี่แมว ฉี่หนู เห็บ หมัด ของหมาวัดได้อีกด้วย

10. แชมพู
พระท่านไม่มีผมแล้วจะเอาแชมพูไปทำไมเนี่ย แถมยังฮอตฮิตติดท็อปเท็นของที่มีประโยชน์อีกด้วย แซงหน้าไมโล โอวัลติน ชาเขียว ขิงผง สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ทิชชู่ ฯลฯ ที่เห็นสลอนอยู่ในถังเหลืองซะด้วยซี คืองี้ เมื่อพระท่านไม่มีผมมาปกป้องหนังศีรษะเนี่ย ทั้งความร้อน ฝุ่นละออง เชื้อโรคต่างๆ ก็จะเข้าถึงหนังศีรษะของท่านได้โดยตรง แถมการรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของหนังศีรษะก็จะเสียไป เพราะไม่มีผมปกคลุม ทำให้หนังศีรษะของพระ มักจะแห้ง และเกิดโรคผิวหนังอยู่เสมอ เช่น ชันตุ เป็นต้น สิ่งที่จะช่วยบรรเทาได้ก็คือ แชมพูยา ที่มีส่วนผสมปกป้องหนังศีรษะ รักษาสมดุล สังเกตง่ายๆ ที่ฉลากจะมีคำว่า 'Scalp' เป็นสำคัญ ยี่ห้อที่เป็นแบบนี้ก็มักจะเป็นพวก แชมพูขจัดรังแค อย่างคลินิค, แพนทีน, Head & Shoulder, ไนโซรัล เป็นต้น แต่น่าเศร้าใจ ที่ไม่มีใครถวายแชมพู พระท่านจึงจำต้องใช้สบู่แก้ขัด ! ซึ่งทำให้ยิ่งคันหัว ศีรษะแห้งไปกันใหญ่ ดังนั้นจึงขอท่านโปรดจำไว้ ว่าเราควรซื้อแชมพูไปถวายพระ แต่ก็เลือกสูตรกันนิดนึงนะคะ ให้เป็นสูตรดูแลหนังศีรษะ เพราะถ้าเกิดเราเลือกสูตร 'เพื่อผมนิ่มสลวยดำเงางาม' ไปถวายท่าน... ท่านอาจเข้าใจผิด คิดว่าเราแซวท่าน

การทำสังฆทาน นอกจากจะถวายเป็นสิ่งของแล้ว อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือ การบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลสงฆ์  เพื่อช่วยเหลือพระภิกษุที่อาพาธค่ะ หวังว่าข้อมูลนี้คงเป็นประโยชน์ ทั้งกับท่านพุทธศาสนิกชนที่มีจิตกุศลต้องการทำสังฆทาน และกับพระภิกษุสามเณร ผู้รับสังฆทาน ที่เป็นเนื้อนาบุญของโลก และเป็นผู้ที่สืบทอดพระพุทธศาสนาของเราต่อไป
...ขอให้ทุกท่านที่ทำบุญกุศล จงประสพแด่สิ่งที่ดี มีความสุขตลอดไปค่ะ

ไม่เป็นไร ไม่ต้องทอน

          เรื่องนี้หลายท่านคงจะได้รับ FW mail บ้างแล้ว และสำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านก็ขอให้มีความสุขกับการขอเงินแม่ต่อไป (ประชดนะเนี้ย) 


เจ้าเด็กชายตัวน้อยของเราเข้าไปหาแม่และส่งกระดาษให้
หลังจากแม่เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้ว เธอก็ก้มลงอ่าน
ค่าตัดหญ้า 5.00 บาท
ค่าทำความสะอาดห้องของผมอาทิตย์นี้ 1.00 บาท
ค่าซื้อของให้แม่ 2.50 บาท
ค่าดูแลน้องชาย 2.50 บาท
ค่าเอาขยะไปทิ้ง 1.00 บาท
ค่าได้คะแนนดี 5.00 บาท
ค่าทำความสะอาดและกวาดสนาม 2.00 บาท
รวมค้างชำระ 19.00 บาท


แม่มองลูกชายที่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างคาดหวัง

เธอหยิบปากกาขึ้นมา พลิกกระดาษ ไปด้านหลังแล้วเขียน :

- เก้าเดือนที่แม่อุ้มท้องลูก ไม่คิดเงิน

- เวลาที่แม่นั่งกับลูก พยาบาลลูก และสวดมนต์ให้ลูก ไม่คิดเงิน

- ค่าที่ลูกทำให้แม่เสียน้ำตาเป็นปี ๆ ไม่คิดเงิน

- หลายคืนที่แม่มีความหวาดระแวงกับความกังวล ที่แม่รู้รออยู่ข้างหน้า ไม่คิดเงิน

- ของเล่น อาหาร เสื้อผ้า และแม้แต่เช็ดน้ำมูกให้ ไม่คิดเงินหรอกจ๊ะลูก

- และเมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันจะเป็นราคาเต็มของความรักที่แท้จริง

ไม่คิดเงินเหมือนกันจ๊ะ

เมื่อลูกชายของเราอ่านสิ่งที่แม่เขียน น้ำตาหยดโต ๆ ก็ไหลออกมา


เขาสบตาแม่และพูดว่า "แม่ครับ ผมรักแม่จริง ๆ นะครับ"

แล้วเขาก็เอาปากกาเขียนหนังสือตัวโตว่า => "จ่ายหมดแล้ว"

ที่รักเธอรักด้วยชีวิต อย่าคิดเลยรักไปเท่าไร ที่ให้เธอแม้มันจะหมดหัวใจ ไม่เป็นไร ไม่ต้องทอน

ขอบคุณ FW mail ดีๆ ...ยังมี Mail ที่มีแง่คิดอีกมากมาย ไว้โอกาสหน้าจะโพสต์มาให้อ่านกันค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

นิทานสอนใจ : ชีวิตฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้

นิทานสอนใจ ชีวิตฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้


วัยเยาว์
ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...ฉันยังเด็กเกินไปที่จะคิด
ชีวิตฉันเพิ่งเริ่มต้น
ทุกวันนี้ยังต้องแบมือขอเงินพ่อแม่
และฉันไม่เหลือพอที่จะเก็บ ฉันกำลังเล่นสนุก
วันหนึ่งเมื่อฉันโตขึ้นฉันจะเก็บเงิน




วัยรุ่น
ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...ฉันยังเรียนหนังสืออยู่
พ่อแม่ให้เงินสำหรับพอใช้ในแต่ละวันเท่านั้น
ฉันยังเก็บเงินไม่ได้หรอก
นอกจากนั้นฉันยังมีเรื่องอื่นๆ
ที่ต้องใช้เงินอีกเมื่อฉันเรียนจบ
และถ้าฉันหาเงินได้เอง ฉันจึงจะเก็บ



วัย 20
ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...ฉันเพิ่งเรียนจบ
ขอเวลาฉันได้พักสมองบ้าง
และฉันยังไม่พร้อมที่จะผูกมัดเรื่องนี้
ฉันยังต้องการแสวงหาความสนุก ในขณะที่ฉันสามารถทำได้
ยังมีเวลาเหลืออีกมากที่จะคิด
ถึงตอนนั้นเมื่อฉันพร้อมฉันก็จะเก็บ




วัย 30
ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...
ฉันเพิ่งมีครอบครัวและต้องรับผิดชอบหลายอย่าง
ค่าใช้จ่ายลูกเดี๋ยวนี้แพงเหลือเกิน
และฉันยังต้องผ่อนหนี้เงินกู้บ้านอีกด้วย
ทุกวันนี้แทบจะชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว
ถ้าวันข้างหน้าฉันหาเงินได้มากกว่านี้และลูกๆ โตแล้ว
ฉันจึงจะเก็บ


วัย 40
ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...ลูกฉันเริ่มเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย
เดี๋ยวนี้ค่าหน่วยกิตและค่าต่างๆ แพงมาก
ไหนยังต้องผ่อนหนี้เงินกู้ที่ซื้อรถยนต์ให้ลูกอีก
ฉันกลัวพวกเขาลำบาก
ตอนนี้ยอมรับว่าค่าใช้จ่ายสูงจริงๆ
และเป็นเวลาที่ยากที่จะเก็บเงิน
แต่อีกสักระยะเมื่อพวกเขาเรียนจบ
การเงินคงจะคล่องตัวขึ้น
ถึงตอนนั้นฉันจึงจะเก็บ




วัย 50
ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...
ตอนนี้ลูกๆเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หลายคนกำลังจะแต่งงาน
ฉันอยากให้พวกเขาเริ่มต้นชีวิตที่ดี
นอกจากนี้ฉันยังต้องไปช่วยญาติบางคน
ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังต้องการความช่วยเหลือ
เหตุการณ์มันไม่ได้เป็นไปตามที่ฉันคิดไว้เลย
มันติดขัดไปหมด
โชคดีเมื่อไหร่ฉันคงจะเก็บเงินได้


วัย 60
ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...
ฉันนึกว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น ฉันอยากเกษียณอายุก่อน
แต่ฉันไม่สามารถทำได้
นกำลังพยายามจ่ายเงินติดค้างจำนองบ้านที่เหลือและหนี้สินอื่นๆ
แต่ทุกอย่างยังประดังเข้ามา ไหนจะลูกเอยหลานเอย
ไอ้โน่นไอ้นี่มาลงที่ตัวฉันหมด ถ้าภาระฉันหมดเมื่อไร
ฉันภาวนาว่าฉันน่าจะเก็บได้




วัย 70
ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้...
ฉันแก่เกินไปที่จะเก็บ
เงินบำนาญของฉันก็มีไม่มากพอ
บิลค่ายาและค่าดูแลรักษาพยาบาลระยะยาวทำให้ฉันเป็นห่วงอยู่
ฉันไม่อยากไปเป็นภาระของลูกๆ เขา
ฉันน่าจะเก็บตอนที่ฉันมีและควรเก็บได้


วัย 80,90,100 
อยู่ให้ถึง 70 ก่อนเถอะ (อันนี้เสริมเอง 555)


ตอนนี้มันสายเกินไป......ฉันไม่สามาถเก็บเงินได้เดี๋ยวนี้จริงๆ....


ขอบคุณจาก FW mail ดีๆ

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

วิธีฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งด่วน

          อย่างแรก เธอแนะว่าให้ดื่มน้ำร้อนที่หยดน้ำมะนาวคั้นสดเหยือกใหญ่นำไปก่อน จากนั้นควรมีการออกกำลังสักเล็กน้อย เพื่อเป็นการเติมออกซิเจนให้กับผิวหน้า เลือกเอาค่ะจะเป็นเดิน วิ่ง โยคะ หรือเต้นไปรอบ ๆ บ้านก็ได้ตามชอบ ตามด้วยการสูดหายใจลึก ๆ ช้า ๆ อย่างน้อย 6 ครั้ง คราวนี้เดินไปส่องกระจกใหม่อีกครั้งค่ะ คุณจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนทีเดียว

          ต่อมาให้ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยเคลนเซอร์อย่างดี ล้างออกด้วยผ้าชุบน้ำร้อนบิดหมาด ๆ แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำเย็นอีกครั้งหนึ่งเพื่อกระชับผิว และรอยแดง แต่ขณะที่เช็ดหน้าด้วยผ้านี้มีเคล็ดลับอีกนิดว่าคุณควรเอนศีรษะไปข้างหลัง (อาจนั่งพิงพนักโซฟาก็ได้ค่ะ) แล้ววางผ้าโปะทิ้งไว้สัก 1 – 2 นาที เสร็จแล้วให้ทาม้อยส์เจอร์ไรเซอร์ด้วยปลายนิ้ว อย่าถูหน้าแรง ๆ เด็ดขาด และระหว่างวันก็อย่าลืมดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อย 1 ลิตรด้วยนะคะ

แล้วหน้าใสปิ๊งก็จะกลับมาหาคุณอย่างรวดเร็วแน่ค่ะ…

Health Tip

1. สำหรับคนที่ไม่สามารถรับประทานนมได้ (ร่างกายไม่สามารถย่อยแลกโตสได้) ทราบไหมว่ามีวิธีทดแทนแคลเซียมจากนมด้วยวิธีอื่น ๆ ด้วย

2. ดื่มนม Low-fat หรือนมที่ไม่มีไขมันที่แลกโตสน้อย หรืออาจใช้วิธีดื่มนมถั่วเหลือง หรือน้ำส้มคั้นสด

3. เลือกรับประทานโยเกิตไขมันต่ำ หรือชีสที่มีไขมันน้อย อย่างเชดด้าชีสไขมันต่ำ

4. รับประทานผักใบเข้ม เช่น กะหล่ำปลีเขียว หรือผักคะน้า

5. รับประทานปลากระป๋องที่มีกระดูกเปื่อยนุ่ม เช่น ซัลมอน

ทั้งหมดนี้รับรองได้แคลเซียมไม่ต่างจากนมเลยค่ะ…

ที่มา http://women.sanook.com/beauty/skincare

เมื่อได้ผลผลิต

สุขใจแค่ไหนเมื่อเห็นผลที่ได้จากการลงมือทำ  สวัสดีค่ะ วันนี้นะคะจะมาบอกเล่าถึง ความสุขที่ได้ลงมือทำ อย่างเช่นครั้งนี้เช่นกัน สุขใจจริงๆค่ะ ที...