ฉันจำไม่ได้แล้ว่ารองเท้าที่แม่ซื้อให้คู่แรกเป็นอย่างไร ราคาเท่าไหร่ รู้แต่ว่าแม่ที่ซื้อรองเท้าให้ลูกในวันนั้นมีชีวิตอย่างไรในวันนี้ วันที่ลูกเติบใหญ่ท่ามกล่างจังหวะชีวิตที่วุ่นวาย
เมื่อเวลาผ่านไปมีบางครั้งทำให้ฉันใช้เท้าทั้งสองข้างที่แม่เคยจูบก้าวฝ่าความรู้สึกของพ่อแม่ด้วยการเหยียบย่ำน้ำของใจขอบท่าน ฉันเริ่มเกเร เริ่มไม่เชื่อฟัง เริ่มเป็นตัวของตัวเอง สิ่งที่พ่อแม่พร่ำสอนก็ไม่อยากจำ
ในที่สุดเชือกรองเท้าทั้งสองข้างที่พ่อแม่ผูกให้ เริ่มหลุดลุ่ยขาดวิ่น ความรู้สึกอิสระในโลกใบใหม่ทำให้เจตนาดีของท่านเริ่มเป็นเรื่องที่เลวร้ายน่าเบื่อ จนเมื่อภาพมายาคลี่คลายเส้นทางที่เคยเลือกเดินและคิดว่าเจ๋งแล้วนั้นกลับตื้นตัน ข้างหน้ากลับกลายเป็นกำแพงหินที่ไม่อาจข้าม
เวลาผ่านไปฉันจึงได้ตระหนักถึงคำพูดเก่าๆ ของพ่อแม่ เริ่มโหยหารองเท้าคู่เก่าที่พ่อแม่เคยซื้อให้ ประสบการณ์ต่างๆ สอนให้ฉันได้ตระหนักถึงสิ่งที่มีอยู่ หากฉันไม่รักษาสิ่งที่มีอยู่อย่างระมัดระวังแล้ว เมื่อเวลาผ่านพ้นไปฉันคงไม่เหลืออะไรให้รักษาอีกเลยในชีวิต
แม่ ขอบคุณ ที่ให้ลูกเกิดมาท่ามกลางความแปรปรวนของชีวิต
แม่ ขอบคุณ ที่ท่ามกลางความแปรปรวนของชีวิตทำให้ลูกรู้สึกถึงคุณค่าของคำว่า แม่
แม่ ขอบคุณ ที่คอยใช้เท้าทั้งสองข้าง ก้าวนำผ่านวันในอดีตและทำให้ลูกลุกยืนในวันนี้ได้อย่างสง่างาม
แม่ ขอบคุณ ที่คอยพร่ำสอนทุกสิ่ง ทุกอย่าง ลูกรู้ว่าแม่ต้องทนแค่ไหนกับความไม่ค่อยเอาไหนของลูก
แม่ ขอบคุณ ที่ทำให้ลูกสะกดคำว่า รัก และรู้จัก รัก เป็นครั้งแรกในชีวิต
แม่ ขอบคุณ ที่คอยเป็นกำแพงพักพิงยามลูกอ่อนล้า และท้อแท้ในบางครั้ง
แม่ ขอบคุณ ที่ ณ ขณะนี้ยังเรียกให้ลูกตื่น กินข้าว อาบน้ำ ไปทำงาน กลายเป็นงานประจำที่แม่ทำให้ลูก
แม่ ขอบคุณ ที่ ณ ขณะนี้ ยังทำอาหารกล่องให้ลูกมากินที่ทำงาน
แม่ ขอบคุณ หลายๆ เรื่องที่มิอาจกลั่นออกมาเป็นตัวอักษร เพราะน้ำตาไหลเลอะตัวอักษรที่เขียนไว้
บทความนี้เขียนขึ้นเนื่องจากวันที่แม่เจ็บที่สุดในชีวิต มิได้เขียนขึ้นเนื่องจากวันเกิดลูก
ป.ล. ลูกอยากรู้ว่าแม่ยังเจ็บอยู่ไหมตั้งแต่วันที่แม่เกิดลูกในวันที่ 13 ตุลาคม
วันเกิดของลูกวันเจ็บของแม่
รักแม่ค่ะ
anda_da
13 ตุลาคม ท่ามกลางความเงียบของเวลา 0200 น.